ในฐานะที่คุณเป็นคนๆหนึ่ง คุณคิดว่า มือทั้ง 2 ข้างของคุณมีความสำคัญแค่ไหน ในลักษณะเดียวกันถ้าคุณคือผู้รับเหมางานก่อสร้าง เครื่องมือเครื่องจักรที่ใช้ในการก่อสร้าง ย่อมมีความสำคัญไม่แพ้กัน
ไม่ว่าจะเป็นงานก่อสร้างขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ถ้ารถตักดินเกิดอุบัติเหตุใน site งาน หรือ รถเครนล้มจากพายุ ไม่ว่าคุณคือผู้รับเหมาที่เป็นเจ้าของรถเครน รถตักดินนั้น หรือ เป็นผู้ให้เช่าเครื่องจักรในการก่อสร้าง ความเสียหายที่เห็นชัดเจนที่สุดก็คือ เครื่องจักรมูลค่าหลายแสน ที่หาเงินให้คุณมาหลายล้าน ไม่สามารถทำงานต่อไปได้แล้วจนกว่าจะได้รับการซ่อมแซม
การประกันเครื่องมือเครื่องจักรสำหรับผู้รับเหมา ( Contractor’s Plant and Machinery Insurance : CPM ) จึงมีบทบาทที่จะเข้ามาช่วยเจ้าของเครื่องมือ เครื่องจักร ที่ใช้ในการก่อสร้าง การรับเหมา
หรือเป็นรถที่จดทะเบียนใช้ในภาคการเกษตร ให้สามารถบรรเทาต่อความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับเครื่องจักรต่างๆ เหล่านี้
โดยในส่วนของเครื่องจักร ที่สามารถทำประกันได้อาจแบ่งประเภทตามการใช้งาน เช่น
1. เครื่องจักรที่ใช้ในการปรับหน้าดิน ไม่ว่าจะเป็น รถเกลี่ยดินแบบตีนตะขาบ/แบบล้อยาง ,รถตักดิน , รถปรับหน้าดิน, รถขุด
2. เครื่องจักรก่อสร้างถนน เช่น รถบดถนนแบบต่างๆ เครื่องบดอัดดินแบบกระแทก เครื่องพ่นยางมะตอย รถโรยหิน รถปูทาง เครื่องผสมยางมะตอย เครื่องจักรกลขุดไสผิวยาง
3. เครื่องมือผสมคอนกรีต เช่น รถผสมคอนกรีต เครื่องผสมคอนกรีต รถพ่วงปั๊มคอนกรีต
4. เครนต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น รุเครน เครนตีนตะขาบ ปั้นจั่น หรือ โฟร์คลิฟท์
ในส่วนของความคุ้มครอง ตามกรมธรรม์ประกันเครื่องมือเครื่องจักรสำหรับผู้รับเหมา นั้น กรมธรรม์จะให้ความคุ้มครองในเรื่องของความสูญเสียหรือความเสียหาย ทางกายภาพของเครื่องจักร ไม่ว่าจะเป็นเครน ปั้นจั่น รถตักดิน หรือ เครื่องจักรชนิดอื่นๆ จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยฉับพลัน หรือไม่สามารถคาดการณ์ได้ล่วงหน้า ว่ากันง่ายๆ ก็คืออุบัติเหตุนั่นเอง เช่น ความเสียหายจากน้ำ อุทกภัย ลมมรสุม พายุหิมะ น้ำไหลบ่า การล้ม การชน การถูกกระแทก การลักทรัพย์และโจรกรรม แผ่นดินทรุด แผ่นดินถล่ม หินถล่ม หรืออื่นๆ เพียงแต่อุบัติเหตุที่เกิดขึ้นต้องไม่ถูกระบุไว้ในข้อยกเว้นของกรมธรรม์
ส่วนช่วงเวลาของการคุ้มครองนั้น เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ ขอแบ่งระยะเวลาที่คุ้มครองคือ
– ระหว่างที่เครื่องจักรเหล่านี้ได้ใช้งานอยู่
– ระหว่างที่เครื่องจักรหยุดพักการใช้งาน
– ระหว่างที่มีการถอดออกออกเพื่อทำความสะอาด ยกเครื่อง หรือการประกอบเข้าที่
– ระหว่างที่มีการเคลื่อนย้ายภายในสถานที่เอาประกันภัย
ข้อควรระวัง คือ ในช่วงที่มีการทดลองเดินเครื่อง ( Testing ) กรมธรรม์ตัวนี้จะไม่ให้ความคุ้มครอง คือจะคุ้มครองก็ต่อเมื่อมีการใช้งานหลังจากทดลองเครื่องสำเร็จแล้วเท่านั้น
นอกจากนี้เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจ หรือความคาดหวังที่ผิด ว่าเมื่อทำประกันแล้วต้องเคลมได้ทุกอย่าง จึงอยากจะย้ำให้ชัดอีกทีว่าความคุ้มครองที่จะคุ้มครองนั้นต้องเกิดจากอุบัติเหตุ ที่มีสาเหตุมาจากปัจจัยภายนอก ดังนั้น กรมธรรม์ประกันเครื่องจักรนี้จึงมีข้อยกเว้นหลายๆ ข้อ เช่น
• การไม่ทำงานของระบบไฟฟ้าหรือเครื่องยนต์
• การไม่ทำงานเพราะการแข็ง การแตกหัก หรือเพราะการขาดน้ำมันหล่อลื่น หรือ หล่อเย็น ซึ่งผู้ดูแลรักษามีหน้าที่ต้องเปลี่ยนตามระยะเวลาอยู่แล้ว
• ความเสียหายของชิ้นส่วนหรืออะไหล่ ที่ต้องเปลี่ยนตามระยะเวลา เช่น ใบเลื่อย ดอกสว่าน ใบมีด แม่แบบหล่อ สายพานโซ่ แบตเตอรี่ ยาง ท่อเชื่อม ท่ออ่อน วัตถุหุ้มห่อที่ต้องเปลี่ยนตามอายุ และ อื่นๆ
• ความเสียหายที่เกิดระหว่างการขนส่ง
• ความเสียหายที่เกิดจากการใช้งาน เช่น เป็นสนิม การสึกหรอ การเสื่อมสภาพเพราะไม่ได้ใช้งานมานานตามปกติ
• ความเสียหายที่เกิดขึ้น เนื่องจากนำไปใช้งานใต้ดิน
• ความเสียหายเนื่องจากความบกพร่องที่มีก่อนการทำประกันภัย
• และความเสียหายอื่นๆ ที่ระบุอยู่ในข้อยกเว้นของกรมธรรม์ประกันเครื่องมือเครื่องจักร ในการก่อสร้างนี้
ในส่วนของข้อมูลเบื้องต้น ที่ใช้ประกอบการในการทำประกันภัย คือ
1. ชื่อ-ที่อยู่ ผู้เอาประกันภัย
2. รายละเอียดของเครื่องจักร รุ่น ยี่ห้อ หมายเลขเครื่อง ปีผลิต
3. ทุนประกันภัย (มูลค่าตลาด ณ ปัจจุบัน Replacement)
4. สถานที่เอาประกันภัย
5. รูปถ่ายเครื่องจักร
โดยในบางบริษัทประกันภัย อาจมีการขอข้อมูลเพิ่มในส่วนของ
6. ประวัติความเสียหายย้อนหลัง และ การบำรุงรักษา
สนใจทำประกันระหว่างก่อสร้าง สามารถติดต่อเราได้ เพราะเรามีประสบการณ์โดยตรงในการประกันภัย เราสามารถให้คำปรึกษา บริการ และให้คำแนะนำได้
TEL : 02-848-9858-9 , Mobile 083-246-3599 , Line@ @k.strong ,
Email : [email protected]
สามารถรับชมข้อมุลในรูปแบบ วีดีโอ ได้ที่นี่ CPM กรมธรรม์ประกันเครื่องมือเครื่องจักรในการก่อสร้าง
