จริงๆ แล้วในเรื่องของความรู้ความเข้าใจและหลักการเกี่ยวกับการประกันภัยนั้น เป็นเรื่องใกล้ตัวของทุกคน และ สามารถประยุกต์ใช้ได้ในแต่ละช่วงวัย
จะว่าไปแล้วเราน่าจะใช้คำว่าปลูกฝัง มากกว่าคำว่า ศึกษาเกี่ยวกับการประกันภัย คือควรให้เข้าใจและคุ้นเคยตั้งแต่วัยเด็ก เพียงแต่เรื่องใดเหมาะสมกับวัยใดเท่านั้นเอง เช่นในเรื่องของการประกันชีวิต จะมีกรมธรรม์แบบสะสมเงินออม ก็สามารถนำหลักการคิดในเรื่องการออมเงินไปปลูกฝังลูกหลานได้ตั้งแต่อายุยังน้อย ให้รู้จักการเก็บออม การวางแผนการเงินอย่างง่ายๆ ให้เขาคุ้นเคยกับสิ่งเหล่านี้ เมื่อเริ่มมีค่าขนม ก็ให้แบ่งปันส่วน ใช้บ้าง เก็บออมบ้าง ฝึกฝนให้เป็นวินัย โดยชี้ให้ผลดีที่จะได้เมื่อเขาโตขึ้น พอเริ่มมีอายุขึ้นมาหน่อยก็เริ่มให้เห็นในเรื่องของการระมัดระวังระวังไม่ให้ประมาท เช่น เมื่อมีอุบัติเหตุรถชน ก็สอนให้เห็นว่าเมื่อประมาทก็จะเกิดอุบิตเหตุ จะต้องเสียเงิน เสียเวลา ฝ่ายที่ผิดก็ต้องรับผิดชอบฝ่ายที่ถูก รวมถึงชี้ให้เห็นว่าการประกันภัยจะมีส่วนดีอย่างไร เริ่มให้รู้ในเรื่องเงื่อนไขต่าง ๆ ที่มาพร้อมกับการประกันภัย เช่น ถ้าไม่มีใบขับขี่ หรือ มีแอลกอฮอล์ขณะขับขี่ จะไม่ได้รับการคุ้มครอง เมื่อโตขึ้นเด็กก็จะระมัดระวังเป็นนิสัยติดตัว เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นหรือเป็นผู้ใหญ่ ก็เน้นหลักในการกระจายความเสี่ยง เพื่อลดความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นโดยไม่คาดคิด และเริ่มเรียนรู้ เรื่องของเงื่อนไข และ ข้อกำหนดของความคุ้มครอง ในแบบประกันที่เข้าไปเกี่ยวข้อง เพื่อที่จะเลือกซื้อกรมธรรม์ได้อย่างชาญฉลาด และ รักษาสิทธิ์ ตนเองได้เมื่อเกิดการเรียกร้องค่าสินไหม ดังนั้นเมื่อทุกคนคุ้นเคยกับหลักการและวิธีคิดเกี่ยวกับประกันภัย ก็จะทำให้แต่ละฝ่าย ไม่ว่าจะเป็นผู้เอาประกันหรือบริษัทประกัน สามารถทำหน้าที่ และ ใช้สิทธิ์ของตนเองได้อย่างเหมาะสมและเป็นธรรม
สนใจทำประกันประเภทต่างๆ สามารถติดต่อเราได้ เพราะเรามีประสบการณ์โดยตรงในการประกันภัย เราสามารถให้คำปรึกษา บริการ และให้คำแนะนำได้
TEL : 02-848-9858-9 , Mobile 083-246-3599 , Line@ @k.strong ,
Email : [email protected]