- สำรวจดูว่า คุณมีสิทธิพิเศษที่ได้ฟรี จากการเป็นสมาชิกต่างๆ ไหม เช่น
- กสิกรไทย ติดต่อผ่าน LINE KBank Live https://bit.ly/2NedgxX
โดยอ่านรายละเอียดและระยะเวลาในการคุ้มครองให้ละเอียด
- ตรวจสอบดูว่าคุณมีสวัสดิการในการรักษาอยู่แล้วไหม เช่น สิทธิประกันสังคม , ประกันสุขภาพ ถ้ามีให้ตรวจดูความคุ้มครองในกรมธรรม์ หรือสอบถามบริษัทประกันโดยตรงว่าขยายความคุ้มครองหรือไม่ ( ซึ่งส่วนใหญ่จะขยายความคุ้มครอง )
3.อย่ารีบตัดสินใจซื้อ ให้ดูเงือนไขของกรมธรรม์แต่ละบริษัทประกันภัยให้ละเอียด เพื่อให้เหมาะกับลักษณะเฉพาะส่วนตัวของคุณ
- อายุ ( กรณีทำให้ทารก เพราะบางที่รับตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป )
- อาชีพ ( บางบริษัทประกันไม่รับ บุคลากรทางการแพทย์ และ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับสายการบินและสนามบิน )
- ประวัติการเดินทางกลับมาจาก ต่างประเทศ ( บริษัทประกันจะมีระยะเวลาต้องรอคอยก่อนสมัคร )
- ประวัติสุขภาพ หรือโรคประจำตัว ( ซึ่งข้อนี้บริษัทประกันส่วนใหญ่จะสงวนสิทธิ์ในการรับประกัน )
4.ดูเงื่อนไขความคุ้มครองที่คุณต้องการ
- กรณีที่คุณไม่มี สวัสดิการในการรักษาพยาบาลเลย ให้น้ำหนักกับความคุ้มครองในส่วนของค่ารักษาพยาบาล ซึ่งบริษัทประกันจะจ่ายให้ตามค่ารักษาพยาบาลที่แท้จริง และจำกัดสิทธิ์ในการซื้อ 1 ท่านต่อ 1 กรมธรรม์ แต่สามารถซื้อเพิ่มเติมกับบริษัทประกันภัยอื่นที่ท่านยังไม่ได้ซื้อ
- ถ้ากังวลเรื่องคนข้างหลังที่ต้องดูแล กรณีเกิดโชคร้ายรับเชื้อแล้วรักษาไม่หาย ให้เลือกดูที่มีวงเงิน ชดเชยกรณีเจ็บป่วยระยะสุดท้าย หรือ เสียชีวิต
- ถ้ามีสวัสดิการการรักษาอยู่บ้างแล้ว แต่ต้องการได้เงินมาชดเชยค่าใช้จ่ายอื่นๆ ขณะรักษาตัว ให้เลือกบริษัทที่มีวงเงินก้อนจ่ายให้เมื่อพบเชื้อ หรือชดเชยรายในเมื่อมีการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล
5.ช่องทางในการซื้อความคุ้มครอง
- บางบริษัทประกันภัย ได้มีการขายผ่านระบบออนไลน์แล้ว ซึ่งหลังจากคุณกรอกข้อมูล และ ชำระเบี้ยเสร็จ จะคุ้มครองทันทีและได้รับกรมธรรม์ทาง E-mail
- การซื้อขาย ผ่าน Counter Service ต่างๆ หรือ ตัวแทน นายหน้า ถ้าใช้การกรอกข้อมูลที่เป็น App กระดาษ จะใช้เวลาในการดำเนินการ ความคุ้มครองจะได้ในวันถัดไป และ ต้องรอคอยกรมธรรม์
สุดท้ายนี้ ข้อมูลที่ถูกต้อง สติ ความเข้าใจและกำลังใจซึ่งกันและกัน จะทำให้พวกเราทุกคน ผ่านพ้นวิกฤติการณ์ในครั้งนี้ไปได้ด้วยดี