อู่ซ่อมรถ นอกโครงการของบริษัทประกัน

การซ่อมอู่นอกเครือ หรือ เบี้ยซ่อมอู่แต่ นำรถไปซ่อมที่ศูนย์
กรณีดังกล่าว เป็นกรณีที่มีความยุ่งยากในเรื่องขั้นตอน และ อาจต้องมีการจ่ายค่าซ่อมเพิ่มเติม อย่างที่เคยที่กล่าวไว้ในเรื่องการซ่อมรถในอู่โครงการ ว่าบริษัทประกันต้องการให้ลูกค้านำรถเข้าซ่อมในอู่ในโครงการ เพราะบริษัทประกันจะง่ายในการจัดการรวมถึงราคาก็เป็นที่ตกลงกันดีแล้ว แต่ถ้าลูกค้าต้องการซ่อมอู่นอกเครือจริงๆ ก็สามารถทำได้ครับแต่จะมีขั้นตอนที่เพิ่มขึ้นมาคือ เมื่อคุณนำไปเข้าซ่อมจะไม่สามารถเข้าซ่อมได้เลย คุณต้องให้อู่นั้นทำการตีราคาค่าซ่อม ตามความเสียหายในใบเคลมก่อน แล้วจึงนำไปตีราคานั้นไปให้บริษัทประกันคุมราคาว่าสามารถรับผิดชอบตามนั้นได้หรือไม่ การคุมราคานี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าอู่ที่คุณนำรถเข้าซ่อมจะบริการหรือไม่ ซึ่งคุณก็แค่มอบอำนาจในอู่ไป แต่ถ้าอู่ไม่ทำคุณก็จะต้องดำเนินการเอง โดยการคุมราคานี้ก็จะออกมาได้ 2 แนวทางคือประกันรับผิดชอบตามราคาที่เสนอมา ( ซึ่งปกติกรณีนี้มีน้อยมากๆ ) หรือ ประกันให้ต่ำกว่าราคาที่เสนอมา ดังนั้นส่วนที่เกินคุณก็ต้องจ่ายครับ ผมถึงแนะนำไงว่าอย่าพึ่งซ่อมคุมราคาก่อน เพราะถ้าคุณซ่อมเลยและปรากฎว่าบริษัทประกันเขาคุมราคามาต่ำกว่ามาก คุณก็จะต้องจ่ายส่วนต่างมากครับ นอกจากนั้นยังไม่พอเมื่อรถซ่อมเสร็จคุณอาจจะต้องสำรองเงินจ่ายให้กับอู่ไปก่อน แล้วค่อยนำรถเข้าไปที่บริษัทประกันเพื่อตรวจสภาพว่ามีการซ่อมมาเรียบร้อยแล้ว จึงจะสามารถเบิกเงินคืน อย่างที่บอกพอเป็นอู่นอกโครงการประกันก็จะไม่วิ่งไปที่อู่ ดังนั้นทุกขั้นตอนก็จะกลายเป็นลูกค้า ต้องวิ่งเข้าหาบริษัทประกันแทนครับ แต่ถ้าบางอู่เขาดำเนินการตั้งเบิกให้คุณก็อาจจะไม่ต้องสำรองจ่ายหรือยุ่งยากเรื่องขั้นตอนเหล่านี้ครับ

ส่วนกรณีที่กรมธรรม์ของคุณซ่อมอู่ แต่คุณนำรถเข้าไปซ่อมศูนย์ บอกเลยครับแม้คุณอาจจะไม่ยุ่งยากเรื่องการคุมราคา เพราะศูนย์จะดำเนินการให้ แต่ว่าคุณต้องจ่ายส่วนต่างในการซ่อมอย่างน้อย 30% ของราคาซ่อมแน่นอน เพราะค่าซ่อมที่ศูนย์คิดกับบริษัทประกันนั้น จะสูงกว่าที่บริษัทประกันจ่ายให้กับอู่ ในความเสียหายลักษณะเดียวกัน ดังนั้นเมื่อบริษัทประกันจ่ายค่าซ่อมแพง เขาก็ดึงคุณเข้ามาร่วมในการจ่ายค่าซ่อมนั้นครับ ซึ่งส่วนใหญ่จะอยู่ประมาณ 30% ของค่าซ่อมนั้นๆ