ความเสียหายทรัพย์สิน

ขายรถไปพร้อมกรมธรรม์ ความเสี่ยงที่มองไม่เห็น

ขายรถไปพร้อมกรมธรรม์ ความเสี่ยงที่มองไม่เห็น

ความฝันของคนมีรถโดยทั่วไป เมื่อใช้รถมาระยะหนึ่งก็อยากเปลี่ยนคันใหม่ให้ใหญ่ขึ้น สวยขึ้น แต่เจ้ารถคันเดิมถ้าจะเก็บไว้ก็มีแต่ค่าใช้จ่าย การขายรถคันเก่าเพื่อไปซื้อคันใหม่ จึงเป็นทางเลือกที่คนส่วนใหญ่ทำกัน แน่นอนคำถามที่พบบ่อยๆจากคนซื้อ โดยเฉพาะถ้าเป็นเต๊นท์รถก็คือ แล้วกรมธรรม์ประกันภัยรถหละแถมให้ไหม

แม้ราคารถที่ขายก็ต่ำจนแทบจะติดดินอยู่แล้ว แต่ถ้าอยากให้ขายออกเร็ว ก็คงต้องยอมตามนั้น แล้วเราจะแน่ใจได้ยังรัยว่า จะไม่มีอะไรย้อนกลับมาหาเรา ในเมื่อชื่อผู้เอาประกันภัยยังคงเป็นชื่อเราอยู่ แล้วคนซื้อหล่ะแน่ใจหรือว่าจะใช้สิทธิ์จากกรมธรรม์ที่เป็นชื่อเจ้าของเดิมได้

สำหรับเรื่องการโอนรถยนต์นั้น ในกรมธรรม์ประกันภัยภาคสมัครใจจะมีเนื้อความระบุไว้ว่า
” เมื่อผู้เอาประกันภัยได้โอนรถให้แก่ผู้อื่น ให้ถือว่าผู้รับโอนเป็นผู้เอาประกันภัยตามกรมธรรม์ประกันภัยนี้ และบริษัทต้องรับผิดชอบตามกรมธรรม์ประกันภัยต่อไปตลอดอายุกรมธรรม์ประกันภัยที่เหลืออยู่ “

จากข้อความข้างต้นขอเพิ่มประเด็นให้ระวัง ในทางปฎิบัติดังนี้
1. ในเรื่องความคุ้มครองจะโอนไปยังผู้ซื้อโดยปริยาย ถ้าเป็นเรื่องรถชน อุบัติเหตุโดยทั่วไป ก็เรียกพนักงานเคลมมาทำเรื่องตามปกติ

2. ในกรณีที่ในกรมธรรม์เดิมมีการระบุชื่อผู้ขับขี่ไว้ ถามว่าผู้ซื้อรถยังเคลมได้หรือไม่ ตอบว่าแน่นอนถ้าเป็นผ่ายถูกไม่มีปัญหาอะไร เคลมได้ปกติ แต่ในกรณีที่เป็นฝ่ายผิด ก็ยังเคลมได้ แต่ต้องเสียความเสียหายส่วนแรก ตามเงื่อนไขผู้ขับขี่ไม่ใช่ผู้ที่ระบุชื่อในกรมธรรม์

3. ในกรณีที่ประกันประเภท 1 แล้วรถเกิดหาย หรือชนหนักจนต้องคืนทุน กรณีนี้นี่แหละที่เรื่องจะวิ่งกลับมาหาเจ้าของรถคนเดิมทันที เพราะชื่อผู้เอาประกันยังคงเป็นชื่อคุณ ลายเซ็นต์ทุกลายเซ็นต์ที่บริษัทประกันภัยต้องการก็คือลายเซ็นต์ของคุณ ยิ่งถ้าเป็นการโอนลอยแล้งยังไม่มีการเปลี่ยนชื่อทางทะเบียน รับรองเลยว่าคนซื้อต้องตามตัวคนขายแน่นอน

4. ต้องการเคลมสีรอบคัน กรณีนี้ก็เป็นอีกกรณีหนึ่งที่ในทางปฎิบัติบริษัทประกันภัยส่วนใหญ่ ต้องการลายเซ็นต์ของผู้เอาประกันภัยตามหน้าตารางกรมธรรม์ ซึ่งก็คือคนขายนั้นเอง

แล้ววิธีการทำที่ถูกต้องควรจะทำเช่นไร?

ถ้าจะให้ดีสำหรับคนซื้อ เมื่อมีการโอนทางทะเบียนถูกต้องแล้ว ก็นำสำเนาทะเบียนรถที่ระบุว่าคุณคือผู้ถือกรรมสิทธิ์ หรือ ผู้ครอบครอง ( ในกรณีที่มีการทำไฟแนนซ์ ) แล้วแจ้งไปที่บริษัทประกันภัย เพื่อเปลี่ยนชื่อคุณเป็นผู้เอาประกันภัยแทน ถ้าเดิมกรมธรรม์ประกันภัยมีการระบุชื่อผู้ขับขี่ไว้ ก็แจ้งเปลี่ยนเป็นชื่อคุณหรือยกเลิก แต่จะมีผลทำให้คุณต้องจ่ายส่วนต่างของเบี้ยที่ปรับขึ้น เนื่องจากการระบุชื่อผู้ขับขี่มีส่วนลดต่อเบี้ยประกัน

***แต่มีวิธีที่ดีกว่านี้ ในส่วนของคนขาย ที่จะทำให้ปลอดภัยทั้งในแง่คดีอาญา คดีแพ่ง ประหยัดเงิน และยังขายรถได้ง่ายดังเดิม โดยเฉพาะการขายกับเต๊นท์รถ แม้โอนลอยแต่คุณจะปลอดภัยแน่นอน 100% ไม่ต้องกังวลว่าจะมีอะไรย้อนกลับมาสร้างปัญหาในอนาคต

ถ้าอยากรู้ รบกวนช่วยทำให้เงื่อนไขนี้เป็นจริง
ณ.เวลา ที่ลงบทความนี้ เวลา 15.45 น. ของวันที่ 5 มิถุนายน 2558
Fan page K.Strong มีผู้ Click Like อยู่ 101 คน
เราขอเพียง 49 คน เป็น 150 คน แล้วเราจะตอบแทนกำลังใจที่ท่านมีให้เรา

https://www.facebook.com/pages/KSTRONG/1537560546529405?fref=ts

รับรองว่าคุณจะไม่เสียอะไร นอกจากเสียเวลาอ่านเกร็ดความรู้ดีๆ ทางด้านประกันภัย ที่เราจะมีให้กับคุณ