กรณีศึกษาที่ 5

กรณีศึกษาที่ 5  เป็นกรมธรรม์การประกันตามสัญญา ลูกค้าเป็น ผู้ว่าจ้าง ( Principle ) ทำการสร้างทาวน์โฮม โดยแบ่งส่วนของการสร้างเป็น 3 ส่วน และเลือกใช้ผู้รับเหมาแบบ Main Contractor

กรณีศึกษานี้เป็นกรณีของผู้ว่าจ้างที่มีความฉลาดในการทำประกันภัย โดยลูกค้ารายนี้จะทำการสร้าง ทาวน์โฮม แต่ในการจัดสร้างทั้งโครงการนั้น ได้แบ่งสัญญาออกเป็น 3 ส่วน คือ

1. สัญญาจ้างเหมาก่อสร้างอาคาร ทาวน์โฮม

2. สัญญาว่าจ้าง งานก่อสร้างซุ้มป้อมยาม

3. สัญญาว่าจ้าง งานก่อสร้างรั้วโครงการ รั้วแบ่งแปลง ถนนและสาธารณูปโภคโครงการ

ในทางปฏิบัติ เมื่อมีการแบ่งงานก่อสร้างโครงการออกเป็นส่วนย่อยๆนั้น ผู้ว่าจ้างสามารถหาผู้รับเหมาได้ 2 วิธี

1. ประมูลแบบหาผู้รับเหมาเดี่ยว คือเป็นผู้รับเหมาหลัก ( Main Contractor ) แล้วให้ผู้รับเหมาหลักไปหาผู้รับเหมาช่วงแทน
2. ประมูลแบบแยกส่วน ( Separate Bidding ) คือส่วนใดผู้รับเหมารายใดมีคุณสมบัติดีสุดก็ได้งานในส่วนนั้นไป

ทั้ง 2 กรณีนี้ ถ้าเป็นกรณีแรกผู้ว่าจ้างอาจให้หน้าที่ในการจัดทำประกันภัยเป็นของผู้รับเหมาหลัก โดยผู้ว่าจ้างยังคงต้องมีหน้าที่ในการดูรายละเอียดของการประกันภัยว่าครอบคลุมและมีวงเงินความคุ้มครองเหมาะสมกับความเสียงหรือไม่  แต่ถ้าเป็นกรณีที่ 2 แนะนำเลยว่าผู้ว่าจ้างควรเป็นผู้ทำหน้าที่จัดหาประกันภัยเอง เพราะจะตัดปัญหาการประกันภัยไม่ครอบคลุมสัญญาว่าจ้างทั้งโครงการ และ ไม่ต้องมาปวดหัวกับปัญหาการไล่เบี้ยกันระหว่างผู้รับเหมาแต่ละราย

ซึ่งในกรณี ทางผู้ว่าจ้างรายนี้ ใช้ผู้รับเหมาเดี่ยว คือให้ผู้รับเหมาหลักรายเดียวเป็นคนจัดการทุกส่วนของโครงการ แต่ที่ฉลาดและรอบคอบกว่านั้นก็คือ ผู้ว่าจ้างรายนี้เป็นผู้จัดทำประกันภัยเอง และให้ทางผู้รับเหมาเป็นผู้รับผิดชอบรายจ่ายทางด้านประกันภัย โดยระบุในสัญญาชัดเจน

1. ระบุว่าผู้ว่าจ้างเป็นผู้จัดทำประกันภัย
2. ผู้รับผลประโยชน์คือผู้ว่าจ้าง
3. ผู้รับจ้าง ( ผู้รับเหมา ) มีหน้าที่ชำระเบี้ย ระบุระยะเวลาในการชำระชัดเจน
4. ผู้รับเหมา ต้องชำระความรับผิดส่วนแรก ในกรณีที่มีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนตามกรมธรรม์ประกันภัย

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ที่เกิดขึ้น และนอกเหนือจากค่าสินไหมที่บริษัทประกันภัยต้องรับผิดชอบ ทางผู้รับเหมายังคงมีภาระต้องรับผิดชอบทั้งหมด

จะเห็นได้ว่า เพียงผู้ว่าจ้างทำตามขั้นตอนที่เห็นข้างต้น ผู้ว่าจ้างก็จะหมดกังวลเรื่องการทำประกันภัย เนื่องจากเป็นผู้จัดการรายละเอียดต่างๆ ด้วยตนเอง และส่งผลให้ปัญหาต่างๆที่จะตามมาในอนาคต ไม่ว่าจะเป็นการทำประกันภัยไม่ครบถ้วน เลือกบริษัทประกันภัยไม่ได้มาตรฐาน ความคุ้มครองต่ำกว่าความเสี่ยง รวมถึงความขัดแย้งต่างๆกับบุคคลภายนอกที่ได้รับผลกระทบจากการก่อสร้างโครงการก็จะน้อยลงไปด้วย

ถือว่ากรณีนี้เป็นกรณีผู้ว่าจ้างตัวอย่างที่มีความฉลาดในการทำประกันและปิดความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นในอนาคตครับ