เงินแท่ง ทองแท่ง ทองรูปพรรณ เงินรูปพรรณ ที่เป็นเครื่องประดับ คือทรัพย์สินที่เป็นข้อยกเว้น ในการประกันภัยทรัพย์สิน คือไม่สามารถทำประกันได้ ไม่ได้รับความคุ้มครอง
เหตุผลเพราะ ราคาขึ้นลงไม่มีความแน่นอน นอกจากนั้นพิสูจน์จำนวนและปริมาณที่มีได้ยาก เมื่อเกิดความเสียหาย
ประเด็นคือ ถ้าเราประกันธุรกิจร้านขายทอง หรือร้านขายเงิน เราจะทำประกันได้อย่างไร ?
ก็ต้องกลับไป หาทางแก้จากประเด็นที่เป็นปัญหาครับ
เนื่องจาก ราคาเนื้อเงิน และ ทองคำ ขึ้นลงตามราคาตลาด ซึ่งทำให้การกำหนดทุนประกันภัยของสต็อกสินค้าเป็นเรื่องยาก
ดังนั้นสิ่งที่ต้องทำก็คือ หาราคากลางร่วมกันระหว่าง ผู้เอาประกันภัยและบริษัทประกันภัย เพื่อกำหนดมูลค่าร่วมกันในวันที่ทำประกันภัยครับ
ซึ่งมูลค่าของสต็อกสินค้า ( เนื้อเงิน หรือ ทองคำ ) ก็คิดมาจาก ปริมาณที่มี * มูลค่าเนื้อเงิน หรือ ทองคำต่อกรัม
โดยมูลค่าที่ใช้ จะเป็นราคาเนื้อเงินที่ไม่มีการคิดค่าแรงหรือค่ากำเหน็จต่างๆ ที่เกิดขึ้นระหว่างการแปลงให้มาเป็นรูปพรรณครับ
เช่น ร้านค้าเครื่องเงินร้านนี้ มีปริมาณเครื่องเงิน คิดเป็นเนื้อเงิน 1,000 กิโลกรัม หรือเทียบเท่ากับ 1,000,000 กรัม
และต้องการทำประกันในวันที่ 1/8/67
เราก็อาจอ้างอิงราคากลาง เนื้อเงินต่อ/กรัม ในวันที่ 1/8/67
ตามตัวอย่าง ซึ่งอยู่ที่
ขายออกบาทละ 508 บาท (กิโลกรัมละ 33324 บาท)
รับซื้อบาทละ 478 บาท (กิโลกรัมละ 31356 บาท)
ซึ่งได้ราคาเฉลี่ยที่ 32.34 บาท/กรัม
ดังนั้นก็จะสามารถกำหนดทุนประกันสต็อกสินค้าที่เป้นเนื้อเงินได้ที่
1,000,000 * 32.34 บาท
หรือ 32,340,000 บาท นั่นเอง และคิดเบี้ยประกันภัยจากทุนประกันมูลค่านี้
ดังนั้นเวลาเกิดเหตุ ถ้านับจำนวนเนื้อเงินที่เสียหายได้เท่าใด ก็จะใช้อัตรา 32.34 บาท/กรัม ในการคิดค่าสินไหมทดแทนให้แก่ผู้เอาประกันภัยเช่นเดียวกัน
ในทางประกันภัย บางครั้งอาจมีข้อกำหนด ข้อยกเว้นมากมาย แต่ถ้าเราเข้าใจหลักการ เหตุผล และที่มาที่ไปของเงื่อนไข เราก้จะสามารถหาทางแก้ไขได้ครับ
#เค.สตรองค์เราแตกต่างที่ความรู้





