1. ช่วยคุ้มครองความเสียหายมหาศาลที่อาจเกิดขึ้น
- บ้านเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูงมาก บางหลังราคาหลายล้านบาท และต้องใช้เวลานานกว่าจะมีบ้านของตัวเองได้หนึ่งหลัง
- หากเกิดไฟไหม้ ไม่ว่าจากบ้านของเราเองหรือบ้านข้างเคียง บ้านอาจพังทั้งหลังในเวลาไม่กี่นาที
- การมีประกันจะช่วยให้เจ้าของบ้านไม่ต้องแบกรับค่าใช้จ่ายซ่อมหรือสร้างใหม่ทั้งหมดด้วยตัวเอง
- การจ่ายค่าเบี้ยประกันภัยเรารู้ว่าเท่าใด แต่ถ้าบ้านไฟไหม้โดยไม่มีประกันเราไม่สามารถประเมินความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้เลย
🧯 ตัวอย่าง: บ้านมูลค่า 3 ล้านบาท ไฟไหม้เสียหายครึ่งหลัง
➡ ถ้ามีประกันอย่างน้อยเราอุ่นใจว่าความเสียหายที่เกิดขึ้น จะมีเงินมาใช้ในการซ่อมแซม
2. ช่วยปกป้องทรัพย์สินภายในบ้าน
- ไม่ใช่แค่ตัวบ้านเท่านั้นที่เสียหาย — แต่เฟอร์นิเจอร์, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ของใช้ส่วนตัว ก็อาจถูกไฟไหม้ไปด้วย ( เงินสด ทองรูปพรรณ อัญมณี วัตุโบราณ…. เป็นข้อยกเว้น )
- การซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติมครอบคลุมทรัพย์สินในบ้านจะช่วยลดภาระการเริ่มต้นใหม่หลังไฟไหม้
3. ให้ความอุ่นใจในการอยู่อาศัย
- เจ้าของบ้านรู้สึกปลอดภัยมากขึ้น หากมีประกันเป็น “แผนสำรอง”
- โดยเฉพาะในช่วงฤดูแล้ง หรือพื้นที่เสี่ยงไฟไหม้ เช่น บ้านไม้ หรือบ้านติดโรงงาน
- น้ำท่วมใหญ่ภัยธรรมชาติ สามารถซื้อความคุ้มครองเพิ่มได้
- โจรกรรมมีการงัดแงะเข้ามาก็มีความคุ้มครอง
4. เป็นเงื่อนไขสำคัญของสัญญากู้บ้านกับธนาคาร
- สถาบันการเงินมัก “บังคับ” ให้ผู้กู้ทำประกันอัคคีภัยขั้นต่ำ เพื่อป้องกันความเสียหายต่อหลักทรัพย์จำนอง
- หากลูกค้าไม่มีประกัน ธนาคารอาจไม่อนุมัติสินเชื่อ หรือหักเบี้ยประกันไว้ล่วงหน้า
- แต่ข้อควรระวัง ธนาคารจะคุ้มครองแค่ตัวอาคารที่เป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน เราต้องซื้อประกันเพิ่มในส่วนของทรัพย์สินอื่นๆ
5. มีค่าใช้จ่ายไม่สูง เมื่อเทียบกับความคุ้มครอง
- เบี้ยประกันต่อปีเริ่มต้นเพียงไม่กี่ร้อยบาท
- แต่ให้ความคุ้มครองหลายแสนถึงหลักล้าน (ขึ้นอยู่กับทุนประกัน)
6. เป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนการเงินครอบครัว
- เหตุไม่คาดฝันสามารถเกิดขึ้นได้ทุกเมื่อ
- การมีประกันช่วยให้ครอบครัวไม่ต้องหาเงินก้อนใหญ่ทันทีในภาวะวิกฤติ
เค.สตรองค์ อินชัวรันส์ โบรคเกอร์ เราคือโบรคเกอร์ประกันวินาศภัยชั้นนำ ที่มีความรู้ในเชิงลึก และเน้นการบริการอย่างจริงใจ ด้วยเบี้ยประกันที่คุณจ่ายอย่างคุ้มค่า







