ตัวอย่างเหตุการณ์ บ้านพักคอนโด

เริ่มต้นอย่างไร ถ้าต้องการทำประกันสำนักงาน

ประกันสำนักงาน

ในปัจจุบันนี้ รูปแบบของสำนักงาน เริ่มมีความสำคัญมากขึ้น เพราะเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยจูงใจให้เด็กรุ่น Gen Y , Gen M มาร่วมงานด้วย แนวโน้มของสำนักงานจึงมีความทันสมัยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกเพิ่มมากขึ้น ว่ากันว่าเสมือนเป็นบ้านหลังที่ 2 ของพนักงานกันเลย

เมื่อสำนักงานมีการเปลี่ยนแปลง โดยมีการลงทุนและให้ความสำคัญมากขึ้น การประกันภัยสำนักงานจึงมีความสำคัญตามมา ในบทความนี้จะช่วยขยายความให้ชัดเจนขึ้นว่า ถ้าคุณสนใจจะทำประกันสำนักงาน สิ่งใดบ้างที่ต้องรู้ ต้องสนใจ โดยเรามาเริ่มกันที่

  1. ในส่วนของทรัพย์สินที่สามารถ นำมาทำประกันภัยได้ สำหรับสำนักงานนั้น หลักๆ ทรัพย์สินที่สามารถ ทำประกันสำนักงานได้คือตัวอาคาร และ เฟอร์นิเจอร์ แต่ในส่วนของตัวอาคารนั้น ต้องดูก่อนว่าเป็นของเราเอง หรือเราเช่ามา โดยการเช่าก็ยังแบ่งอีกเป็น 2 ประเภท คือ
  • เช่าอาคารทั้งหลัง ในประเภทนี้เราจะทำประกันอาคารหรือไม่ทำนั้น ขึ้นอยู่กับตัวสัญญาระหว่างผู้ให้เช่ากับเรา ถ้าสัญญาเช่ากำหนดให้ต้องทำประกันอาคารด้วย ก็คงหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยในตัวกรมธรรม์ก็ต้องมีการระบุผู้ให้เช่าเป็นผู้รับผลประโยชน์ในส่วนของตัวอาคาร ข้อดีก็คือถ้าโชคร้ายเกิดเหตุ เช่นไฟไหม้และทำให้ตัวอาคารได้รับความเสียหาย ทางบริษัทประกันก็จะมาช่วยชดใช้ให้กับผู้ให้เช่าแทนเรา

แต่ในกรณีที่ผู้ให้เช่ามีการทำประกันอาคารเอง ถ้าทำได้ให้นำชื่อผู้เช่าไปร่วมเป็นผู้เอาประกันภัยด้วย เหตุผลเพราะ ในกรณีที่เกิดไฟไหม้ บริษัทประกันของผู้ให้เช่าจะชดใช้ค่าสินไหมให้กับผู้ให้เช่าก่อน แต่ท้ายที่สุดจะมาไล่เบี้ยกับผู้ก่อเหตุ ซึ่งก็คือเราที่เป็นผู้เช่านั้นเอง แต่ถ้าชื่อของเราเป็นหนึ่งในผู้เอาประกันภัยด้วย บริษัทประกันภัยก็จะไม่สามารถเรียกร้องจากเราได้

  • เช่าบางส่วนของอาคารนั้น ( ส่วนใหญ่จะเป็นสำนักงานที่เช่าตามอาคารขนาดใหญ่ที่แบ่งพื้นที่ให้เช่า ) ซึ่งโดยส่วนใหญ่ทางอาคารจะมีการทำประกันตัวอาคารและทรัพย์สินส่วนกลางอยู่แล้ว แต่บางอาคาร นิติบุคคลอาคารก็จะมีข้อบังคับให้เราทำประกันทรัพย์สินของเรา รวมถึงประกันความรับผิดต่อบุคคลภายนอกด้วย

2.ระบุรายละเอียดทรัพย์สิน ต้องระบุให้ครบถ้วนในคำจำกัดความของทรัพย์สินประเภทนั้นๆ

  • สิ่งปลูกสร้าง ในที่นี้ หมายถึงตัวอาคาร ( ไม่รวมฐานราก ) รวมส่วนที่ต่อเติมอาคาร กำแพง รั้วประตู ป้อมยาม ที่จอดรถ
  • เฟอร์นิเจอร์ ในที่นี้จะรวมถึง สิ่งติดตั้งตรึงตรา เครื่องใช้ไฟฟ้า เครื่องใช้สำนักงาน ระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ป้ายต่างๆ รวมถึงทรัพย์สินอื่นๆ ที่เรามี เช่นลิฟท์ หรืออุปกรณ์อื่นๆ ที่สำนักงานทั่วไปไม่มี

3.กำหนดมูลค่าทรัพย์สินแต่ละประเภทของเราให้ใกล้เคียงกับความเป็นจริง โดยในทางประกันภัย ในส่วนของตัวอาคารจะมีวิธีคำนวณว่า ทุนประกันควรเป็นเท่าใด แต่ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ อาจต้องใช้ตัวเลขทางบัญชีมาช่วยส่วนหนึ่ง เพียงแต่ว่าทรัพย์สินบางอย่างเมื่อถือครองมาระดับหนึ่ง อาจถูกหักค่าเสื่อมจนหมดมูลค่า ตามการคิดทางบัญชี แต่ในทางประกันภัยจะไม่เป็นเช่นนั้น จะคิดจากหลักที่ว่าถ้าซื้อทรัพย์สินชนิดนี้ ในอายุการใช้งานที่เท่ากัน สเปคเดียวกัน จะต้องซื้อมาในราคาเท่าใดหรือพูดง่ายๆ ว่าราคามือสองในทรัพย์สินที่มีลักษณะเดียวกันคือเท่าใด โดยการกำหนดทุนประกันแต่ละประเภททรัพย์สินนี้ ต้องกำหนดอย่างน้อยไม่ให้ต่ำกว่า 80% ของมูลค่าที่แท้จริง มิเช่นนั้นอาจทำให้การประกันของเรา Undervalue ได้ ซึ่งจะเกิดผลเมื่อมีการเรียกร้องค่าเสียหาย ทำให้ไม่สามารถเรียกร้องได้ตามความเสียหายที่

4.ดูความเสี่ยงภัยที่เรามี นอกเหนือจากความคุ้มครองไฟไหม้ เช่น เรามีการเก็บเงินสดไว้ที่สำนักงานไหม ถ้าสำนักงานประกอบด้วยกระจก ก็ควรมีความคุ้มครองความเสียหายของตัวกระจก นอกจากนั้นอาจจะซื้อความคุ้มครองในส่วนของความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ซึ่งความเสี่ยงต่างๆ เหล่านี้ เราก็ต้องดูและคิดให้ละเอียด เพราะถ้าเกิดเหตุแล้วไม่มีความคุ้มครอง ความเสียหายที่เกิดขึ้นจะไม่คุ้มกันกับการที่เราเพิ่มค่าเบี้ยอีกเพียงเล็กน้อย การเลือกความคุ้มครองจึงเป็นสิ่งสำคัญ

5.เลือกแบบกรมธรรม์และบริษัทประกันให้เหมาะกับความต้องการที่เรามี ซึ่งปัจจุบันหลายๆ บริษัทประกันภัยได้จัดความคุ้มครองออกมาเป็น แพ็คเกจ แตกต่างกันไป ก็ต้องเลือกให้เหมาะสมกับความคุ้มครองที่เราต้องการ โดยอย่าลืมว่าในกรมธรรม์ประกันภัยนั้นจะมีเนื้อหาต่างๆ ทั้งในส่วนของความคุ้มครอง เงื่อนไขและข้อยกเว้น ดังนั้นเราต้องศึกษาหรืออ่านเอกสารให้ละเอียดก่อนที่จะตัดสินใจทำประกันภัย เพราะส่วนนี้คือส่วนที่เรียกได้ว่าเป็นหัวใจของการทำประกันภัยได้เลย

ท้ายสุดนี้ คุณอาจเป็นคนหนึ่งซึ่งไม่เคยสนใจทำประกันภัย แต่ในเมื่อมีโอกาสที่จะต้องทำแล้ว การทำประกันภัยอย่างถูกต้อง จากคนขายประกันภัยที่รู้จริง ย่อมเป็นสิ่งที่ดีที่สุด เพราะจะทำให้เบี้ยประกันภัยที่คุณจ่ายไปนั้นคุ้มค่า และเกิดประโยชน์เมื่อต้องมีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากบริษัทประกันภัย

สนใจทำประกันสำนักงาน ออฟฟิศ สามารถติดต่อเราได้ เพราะเรามีประสบการณ์โดยตรงในการประกันภัย เราสามารถให้บริการและแนะนำได้เมื่อมีการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทน

TEL : 02-848-9858-9 , Mobile : 083-246-3599 , Line @k.strong ,

Email : [email protected]