ทำไมต้องทำประกันทั้งหมด จะประกันเฉพาะที่คิดว่าเสี่ยงไม่ได้หรือ ?

ทำไม่ต้องให้ผมทำประกันทุกอาคาร ผมจะทำเฉพาะที่คิดว่าเสี่ยงไม่ได้หรือ ?

นี่คือคำถามของคนที่โทรเข้ามือถือผมเมื่อวันก่อน พี่เค้าเป็นเจ้าของโรงงานผลิตชา และพบเบอร์ผมจากบทความของผมที่เขียนไว้ ซึ่งแกได้เข้าไปอ่าน แกเล่าให้ฟังว่า วันก่อนให้ทาง บริษัทประกันภัยแห่งหนึ่งเข้ามาสำรวจโรงงานเพื่อจะทำประกันโรงงานของแก ปรากฏว่าพอได้รับใบเสนอราคา ทุนประกันสูงกว่าที่แกคาดหวังไว้ เพราะบริษัทประกันเอามูลค่าของทรัพย์สินและอาคารทั้งหมด 4 อาคารมาคิดเป็นทุนประกัน ในขณะที่แกเคยบอกไปแล้วว่าแกจะทำประกันแค่ 2 อาคารที่เป็นตัวโรงงาน ส่วนสำนักงานกับที่เก็บสินค้าไม่เสี่ยงแกไม่อยากทำ

“ผมว่ามันไม่โอเค ตึกมันไม่เสี่ยงผมจะทำประกันทำไม บริษัทประกันน่าจะอยากได้เบี้ยเลยทำแบบนี้” พี่เจ้าของโรงงานแสดงความคิดให้ผมฟัง

หลังจากนั้นก็เล่าว่า แกเลยไปหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต เจอบทความผม เลยโทรมาถามว่า บริษัทประกันภัยทำถูกไหม ?

ผมก็ตอบไปตามสไตล์ผม คือไม่เอาส่วนได้เสียของผมมาคิด แต่ตอบให้ตรงตามหลักประกันภัย

“เขาทำถูกแล้วครับพี่ มันเป็นไปตามหลักการประกันภัย”  ซึ่งก็ไม่แน่ใจนักว่า แกจะถูกใจกับคำตอบของผมไหม แต่ผมก็อธิบายเพิ่มเติมทันทีโดยให้เหตุผลว่า

“หลักการประกันภัย มันเริ่มต้นมาจากการถั่วเฉลี่ยความเสี่ยงครับพี่” หมายความว่าระบบประกันภัยจะรับเบี้ยประกันมาจากหลากหลายธุรกิจ เพื่อให้เกิดการเฉลี่ยของระดับความเสี่ยงภัย เช่นมีการรับประกันบ้านพัก ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำ, ร้านค้า ร้านเสริมสวย โกดังสินค้า โรงแรม คลินิก ไปจนถึงโรงงานต่างๆ ที่มีความเสี่ยงสูง เช่นโรงงานเกี่ยวกับเคมีภัณฑ์บางชนิด ทั้งนี้เพราะแต่ละธุรกิจก็มีความเสี่ยงในการเกิดภัยแตกต่างกัน การรับประกันที่หลากหลายและมีจำนวนมากพอ ก็จะทำให้สามารถกระจายและถัวเฉลี่ยความเสี่ยงกัน คือเอาเบี้ยประกันที่ได้ มาจ่ายสินไหมให้กับธุรกิจที่โชคร้ายเมื่อเกิดเหตุและต้องการสภาพคล่อง จากเงินค่าสินไหมทดแทน

ซึ่งสุดท้าย เบี้ยที่รับเข้ามาควรจะมากกว่าค่าสินไหมที่จ่ายออกไป เพื่อบริษัทจะได้อยู่ได้ และส่งทำให้กลไกของระบบอุตสาหกรรมประกันภัยสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ลองนึกภาพดูนะครับ ถ้าบริษัทประกันภัยหนึ่งรับประกันแต่ธุรกิจที่มีแต่ความเสี่ยงสูง และโชคร้ายต้องจ่ายสินไหมเกินกว่าเบี้ยที่รับมา จนต้องปิดตัวลง แล้วลูกค้ารายอื่นๆ ที่จ่ายเบี้ยให้บริษัทประกันภัยนี้จะทำอย่างไร?

เมื่อผมฉายภาพใหญ่ให้แกฟังแล้ว พี่เขาก็เข้าใจครับ เพราะในกรณีนี้การประกันโรงงานของพี่เขา บริษัทประกันจึงต้องประเมินทุนประกันจากทรัพย์สินและอาคารทุกอาคารครับ ไม่สามารถเลือกทำประกันภัยบางอาคารได้

พี่แกก็น่ารักครับ เมื่อได้ฟังเหตุผลแล้วก็เข้าใจดีและบอกว่า งั้นเดี๋ยวจะให้บริษัทประกันภัยนั้นออกกรมธรรม์เลย

ผมก็แอบคิดในใจว่า แหม น่าจะมาเจอผมก่อนตั้งแต่แรกนะเนี่ย 555

แต่ก็โอเคครับ อย่างน้อยก็ทำให้คนไทยมีความเข้าใจเรื่องประกันภัยเพิ่มขึ้นอีก 1 คน ไม่ได้เงินแต่ก็ได้ความสุขใจครับ 55555….

ผมชอบนะครับ คนที่รับฟังเหตุผลและทำความเข้าใจโดยไม่เอาความต้องการตัวเองเป็นที่ตั้ง และความคิดเห็นของผมก็น่าจะมีน้ำหนักมากกว่า เพราะถือว่าไม่มีส่วนได้เสีย ถ้าจะให้บริษัทประกันภัยจะมาอธิบายให้แกฟังเอง แกก็คงสงสัยอยู่ว่าพูดจริงหรือไม่ …

มาช่วยกันครับ ช่วยกันสงสัย ช่วยกันอธิบาย ช่วยกันฟังและทำความเข้าใจ สุดท้ายทุกคนจะ Win หมดครับ ในเรื่องการประกันภัย

สนใจติดต่อขอข้อมูล ขอคำปรึกษา หรือซื้อประกันภัย ติดต่อที่