เมาแล้วขับรถเกิดอุบัติเหตุ ประกันรถยนต์ที่ทำไว้จะทำงานอย่างไร

เมาแล้วขับรถเกิดอุบัติเหตุ

เมาแล้วขับ เป็นที่รู้ๆกันอยู่ว่า เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะนอกจากจะถูกตำรวจจับแล้ว ยังเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุด้วย แต่สำหรับบางคนเมื่อลองได้ตั้งต้นดื่มแล้วก็ยากที่จะหยุด ครั้นจะทิ้งรถไว้ก็ไม่แน่ใจเรื่องความปลอดภัย เลยต้องเสี่ยงกันสักทีขับแค่นี้ไม่น่ามีปัญหา

แล้วถ้าโชคไม่ดีเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาในขณะที่คนขับเมา ในทางประกันภัยจะมีผลอย่างไร
การขับขี่โดยบุคคลซึ่งมีปริมาณแอลกอฮอล์เกินกว่า 150 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ถือเป็นข้อยกเว้นของความคุ้มครองตามกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์ โดยความคุ้มครองในที่นี้ขอแยกเป็น

1. ความคุ้มครองต่อรถยนต์ ของผู้เอาประกัน ก็คือรถคันที่ขับไปประสบอุบัติเหตุนั่นเอง ในกรณีนี้ถึงแม้ประกันประเภท 1 ไว้ก็ไม่คุ้มครอง เพราะอยู่ในข้อยกเว้น ดังนั้นต้องเสียค่าซ่อมรถเอง

2. ความคุ้มครองความรับผิดต่อบุคคลภายนอก ว่ากันง่ายๆ ก็คือ ชีวิต ร่างกาย และ ทรัพย์สิน ของบุคคลอื่นที่ได้รับผลกระทบหรือความเสียหายที่เกิดจากการกระทำของคนขับ ซึ่งทำให้คนขับมีความผิดและต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ในกรณีนี้ บริษัทประกันภัยจะต้องรับผิดชอบจ่ายค่าสินไหมให้กับบุคคลภายนอกไปก่อน ( ที่เป็นเช่นนี้เพราะการประกันภัยมีจุดประสงค์ต้องการให้คุ้มครองบุคคลภายนอกที่ได้รับผลกระทบ ) แต่อย่างที่บอกเบื้องต้นแล้วว่า การเมาแล้วขับคือข้อยกเว้นความคุ้มครองของกรมธรรม์ ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นหลังจากบริษัทประกันภัยจ่ายค่าชดใช้ให้บุคคลภายนอกไปแล้วก็คือ บริษัทประกันภัยจะส่งหนังสือเรียกร้องค่าใช้จ่ายนี้ไปยังผู้เอาประกันภัย ( ย้ำนะว่าข้อความในกรมธรรม์ใช้คำว่า ผู้เอาประกันภัยไม่ใช่คนขับ ) โดยผู้เอาประกันภัยจะต้องใช้เงินจำนวนนี้ภายใน 7 วันหลังจากได้รับจดหมายเรียกร้องจากบริษัท

สรุปก็คือ หลังจากสร่างเมาคุณจะพบว่า นอกจากคุณต้องจ่ายค่าซ่อมรถตัวเองแล้ว คุณยังต้องจ่ายความเสียหายทั้งหมดที่เกิดขึ้นกับคู่กรณีด้วยนั่นเอง