กรณีศึกษา ขับรถชนมีคนเจ็บ ( ตอนที่ 4 )

ขับรถชนมีคนเจ็บ ( ตอนที่ 4 )

จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทำให้น้องก้อยศรีต้องใช้เวลาจัดการสิ่งต่างๆ เพื่อที่จะทำให้ปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต น้อยลงที่สุด ซึ่งน้องก้อย ก็ควบคุมสติ และจัดการเรื่องต่างๆ ทั้งที่เกิดเหตุ หรือที่ โรงพักได้เป็นอย่างดี

น้องก้อยของเรา จึงกลับมาล้มตัวลงนอนพักผ่อน หลับลึก อย่างไม่เคยหลับแบบนี้มาก่อน “ เอาให้เต็มที่เลยครับน้องก้อย เก็บพลังให้เยอะๆ จะได้ลุยกันต่อไป ”

เช้าวันใหม่ ภายหลังจากเหตุการณ์อุบัติเหตุเกิดขึ้น น้องก้อยตื่นขึ้นมาด้วยความเหนื่อยล้า แม้จะยังคงทอดกลายอยู่บนเตียง แต่สมองก็ใช้ความคิดว่า ควรจะทำอย่างไรต่อไปกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น “ ใช่แล้ว …” ก้อยพูดกับตัวเอง “ เราต้องไปเยี่ยมคนเจ็บที่โรงพยาบาล ” ว่าแล้วน้องก้อย ก็ลุกขึ้นมาแต่งตัวเพื่อมุ่งหน้าไปโรงพยาบาล แต่ก็ไม่ลืมที่จะซื้อของเยี่ยมเล็กๆ น้อยๆ ไปฝากด้วย

เมื่อมาถึงโรงพยาบาล น้องก้อยก็เข้าไปถามรายละเอียดเจ้าหน้าที่ หลังจากนั้นก็มุ่งตรงไปยัง ชั้น 3 ของอาคาร 4 โดยมีจุดหมายอยู่ที่ห้อง 322 ซึ่งเป็นที่พักของบีซัง คนเจ็บ เมื่อถึงหน้าห้องน้องก้อย ชะโงก หน้าผ่านกระจกบานเล็กเข้าไปในห้องก็รู้ว่า บีซังนั้นอยู่ในห้องเพียงลำพังคนเดียว จึงตัดสินใจเปิดประตูห้องเข้าไปทันที

บีซัง ซึ่งนอนอยู่บนเตียง มีเฝือกที่ขาขวา และ มีผ้าพันทั่วขาซ้าย หันมามองด้วยหน้าตามึมงง เกิดคำถามในใจว่า เธอคือใคร

น้องก้อย เมื่อเห็นบีซัง ในสภาพดังกล่าว ก็ถอดสีหน้าเล็กน้อย เพราะตระหนักถึงวีรกรรม ที่ตนเองและ I Phone คู่กายได้สร้างขึ้น แต่ก็ทำใจดีสู้เสือ พร้อมกับกล่าวออกไปว่า “ ฮะเหล เป็นไงบ้างคะ … ก้อย เองคะ คนที่เรียกหน่วยกู้ภัยมาช่วยคุณเมื่อวานนี้

“ โธ่ น้องก้อย พูดเหมือนจะดูดีมีน้ำใจ ทำไมไม่บอกเขาไปตรง ๆ หละ ว่าเราเป็นคนขับชนเขา

น้องก้อย ตอบกลับเสียงที่แทรกขึ้มมาในหู ทันทีว่า “ ก็ก้อยยังพูดไม่จบนี่ค่ะ “

ว่าแล้วน้องก้อย ก็หันกลับไปพูดกับ บีซัง ต่อว่า “ ก้อย เองคะ คนที่เรียกหน่วยกู้ภัยมาช่วยคุณเมื่อวานนี้ หลังจากที่ ก้อยขับรถชนคุณ”

บีซัง มองกลับไปที่ก้อยศรี หญิงสาวที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอ พร้อมกับยิ้มมุมปาก แล้วพูดว่า “ แล้วรู้ได้ไงคะ ว่าบีอยู่ที่นี่ ….

“ น้องก้อย ตอบข้อสงสัยดังกล่าว และทั้งคู่ ก็เริ่มแนะนำตัวซึ่งกันและกัน แต่เนื่องจากทั้งคู่ต่างมีอัธยาศัยดี บทสนธนาเกี่ยวกับอุบัติเหตุ จึงเปลี่ยนเป็นเรื่องทั่วๆ ไป ตามสไตล์ ผู้หญิงถึงผู้หญิ้ง……หญิง

อีกไม่นานต่อมาก็มีเสียงกระซิบแว่วมาในหูน้องก้อยว่า “ น้องก้อย ครับ…. น้องก้อยครับ “ อย่ามัวแต่คุยไปเรื่อยเปื่อยครับ มีประเด็นที่น้องก้อยควรถามครับ เพื่อประโยชน์ของตัวน้องก้อยเอง

แม้น้องก้อย จะรู้สึกรำคาญ ปน สงสัยว่า เสียงนี้ มาจากที่ใด แต่น้องก้อยก็เงี่ยหูฟังอย่างตั้งใจ น้องก้อยครับ สิ่งสำคัญที่น้องก้อยควรถาม ก็คืออาการครับ ว่าเป็นอย่างไร ถ้าให้ดี รู้ว่าหมอให้พักอยู่ในโรงพยาบาลนานเท่าไหร่ก็จะดีมากครับ

ยังไม่สิ้นเสียงแนะนำจะหมดไป ก้อยศรี ก็ยิงคำถามที่ บีซัง ทันที “ ท่าทางจะเจ็บมากนะคะ แล้วนี่หมอให้พักอยู่ในโรงพยาบาล กี่วันละคะ “

เนียนดีมาก ครับ น้องก้อยเนียน จริงๆ อย่างนี้เขาเรียกว่ามืออาชีพครับ

บีซัง ตอบด้วยความใสซื่อ “ ก็เจ็บอยู่บ้างคะ แต่บี กลัวเป็นแผลเป็นมากกว่า เดี๋ยวแฟนบีไม่ปลื้ม นี่เห็นหมอ ให้พักอยู่โรงพยาบาล 20 วัน คะ หมอเค้ากลัวว่าแผลจะติดเชื้อ และต้องการให้กระดูกต่อกันดีก่อน

“ …… โชคดีมาก มาก เลยนะครับ น้องก้อย รู้ไหมว่าความแตกต่าง ระหว่าง 20 วัน กับ 21 วัน คืออะไร 20 คือ 1 แต่ 21 คือ 3 ครับ ผมหมายความว่า ถ้าเจ็บป่วยด้วยอาการทุกขเวทนาเกินกว่า ยี่สิบวันหรือจนประกอบกรณียกิจตามปกติไม่ได้เกินกว่ายี่สิบวัน เขาถือว่า บาดเจ็บสาหัส ผู้ที่ประมาทและทำให้ผู้นั้นบาดเจ็บ ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี แต่ถ้าเป็นบาดเจ็บธรรมดา ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน หนึ่งเดือน ต่างกันเยอะนะครับ ดังนั้นกรณีนี้ พักเพียง 20 วัน ก็ยังไม่ถือว่าบาดเจ็บสาหัสครับ ( ดูประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 297 วรรค 2 (8) ประกอบครับ )

อะไรอีกที่น้องก้อยของเราต้องทำต่อที่โรงพยาบาล ลุ้นกันต่อได้ในตอนจบ ..